

เจาะลึก “ข้อดี” และ “ข้อเสีย” ของการเรียนออนไลน์ รูปแบบการสอนแบบใหม่ ในยุค New Normal
สำหรับการรูปแบบการเรียนการสอนที่กำลังมาแรงในยุค New Normal คงจะหนีไม่พ้นรูปแบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ แต่ก็คงจะมีคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านที่อาจจะกังวัลในเรื่องข้อเสีย และข้อดีของการเรียนออนไลน์กันไม่น้อยว่าจะสามารถช่วยพัฒนาการเรียนรู้ให้กับเด็ก ๆ ได้จริงหรือไม่ วันนี้ LingoAce Thailand เลยอยากจะชวนคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านมาทำความเข้าใจถึงรูปแบบการเรียนการสอนออนไลน์ว่าคืออะไร ข้อเสีย และ ข้อดีของการเรียนออนไลน์ มีอะไรบ้าง เพื่อจะได้วางแผนและพร้อมรับมือการเรียนการสอนรูปแบบใหม่นี้ให้มีประสิทธิภาพและประโยชน์กับเด็ก ๆ ให้ได้มากที่สุดกันครับ
การเรียนออนไลน์ (Online-Learning) คืออะไร

การเรียนออนไลน์ (Online-Learning) คือรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะผ่านเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตที่สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาโปรแกรม สื่อการสอนออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เสมือนกับการเรียนในห้องเรียนจริง ๆ
นอกจากนี้ ข้อดีของการเรียนออนไลน์ ยังมีความยืดหยุ่นสามารถเลือกรูปแบบการจัดตารางการเรียนรู้ หรือหัวข้อให้เหมาะสมกับผู้เรียนให้มากที่สุดได้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่หลาย ๆ ท่านก็เลือกนำมาปรับใช้และผสมผสานไปกับการเรียนการสอนแบบ โฮมสคูล (Home School) ด้วย (สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฮมสคูล (Home School) ได้ที่ วิธีเตรียมตัวให้ลูกเรียน Home School
ข้อดีของการเรียนออนไลน์

1.สามารถเลือกเรียนตามระดับความรู้และความสนใจได้
ข้อดีของการเรียนออนไลน์ คือคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยเด็ก ๆ ในการวางแผนการเรียนได้ตามความสนใจและระดับความสามารถของเด็ก ๆ ได้ หรือที่เรียกว่าการเรียนรู้โดยมีเด็กเป็นศูนย์กลาง (Student-Centered Learning) ได้ค้นหาตัวตนผ่านหลักสูตรไม่ว่าจะถนัดอะไร ชอบอะไร อยากเรียนอะไร สิ่งเหล่านี้จะช่วยเป็นแนวทางการวางระบบการศึกษาที่ทำให้เด็กๆ มีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้ รวมไปถึงมีอิสระที่จะเลือกเรียนในสิ่งที่เด็ก ๆ สนใจ
2.เนื้อหาการเรียนการสอนทันสมัยและมีการอัปเดตอยู่เสมอ
เรียกได้ว่าเป็นข้อสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว เพราะเนื้อหาที่ทันสมัยและอัปเดตอยู่เสมอ สามารถช่วยให้เด็ก ๆ ได้รู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ รู้เท่าทันต่อสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ พร้อมฝึกทักษะและได้รับองค์ความรู้ที่จำเป็น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันและในอนาคต นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจในเนื้อหา สามารถนั่งเรียนไปกับลูก ๆ ได้ด้วย
3.สามารถกลับไปทบทวนได้เสมอ
หมดห่วงเรื่องเรียนตามเพื่อนไม่ทันหรือไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณครูสอน เพราะเด็ก ๆ สามารถย้อนกลับมาทบทวนได้ใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบได้จนกว่าจะเข้าใจได้ทุกเมื่อ ต่างจากการเรียนในห้องเรียนที่ต้องเรียนไปพร้อมกับเพื่อน ๆ ไม่สามารถย้อนกลับมาเรียนหรือทบทวนในจุดที่ไม่เข้าใจได้
4.เวลาเรียน และสถานที่มีความยืดหยุ่น
ไม่ต้องกังวลเรื่องตารางในการเรียนเพราะเด็ก ๆ สามารถเลือกเวลาเรียนที่สะดวกได้ตามใจผู้เรียน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกสถานที่ในการเรียนที่เด็ก ๆ รู้สึกสะดวก และมีสมาธิในการเรียนได้อีกด้วย
5.ลดความกดดันในการเรียน
เวลาเรียนในห้องเรียนเด็กหลาย ๆ คนอาจรู้สึกกดดันเมื่อถูกประเมินโดยให้คุณค่ากับความสำเร็จเชิงวิชารวมมากกว่าความสนใจและความสุขในการเรียน นอกจากนี้ยังถูกกดดันจากการโดนเปรียบเทียบกับเพื่อน ๆ คนอื่นในชั้นเรียนทำให้เกิดความรู้สึกด้อยค่า ซึ่งเมื่อเด็ก ๆ รู้สึกกดดัน เครียด ไม่มีความสุข ก็จะก่อให้เด็กความเครียด วิตกกังวล ไม่มีสมาธิ ส่งผลกระทบกับผลการเรียน และความสัมพันธ์กับบุคคลคนรอบข้างในที่สุด การเรียนออนไลน์สามารถช่วยลดความกดันในเรื่องนี้ได้เพราะเด็ก ๆ จะไม่รู้สึกว่าต้องแข่งขันหรือโดนเปรียบเทียบกับใคร อีกทั้งยังส่งเสริมให้เด็กกล้าถาม กล้าแสดงออกความคิดเห็นโดยไม่กลัวความผิดพลาดอีกด้วย
ข้อเสียของการเรียนออนไลน์

1.เด็ก ๆ อาจจะขาดสมาธิในการเรียนได้
เด็กบางคนอาจจะมีปัญหาในการนั่งเรียนเป็นเวลานาน ๆ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรหาพื้นที่ที่เงียบสงบ หาคอร์สออนไลน์ที่ให้เด็ก ๆ มีส่วนร่วมมีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอน จัดสรรเวลาในการเรียนรู้และกิจกรรมต่างๆ ให้ตรงกับ “ช่วงเวลาทอง” ที่มีในแต่ละวัน ช่วงเช้าระหว่างเวลา 9.00 – 11.00 น. และ 2) ช่วงบ่ายระหว่างเวลา 15.00 – 16.00 น. รวมไปถึงช่วงเวลาพัก โดยแต่คาบละในการเรียนไม่ควรเกิน 20 – 25 นาที
2.ไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
การเรียนออนไลน์ทำให้เด็กขาดการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียน ทำให้ไม่เกิดการพัฒนาการด้านสังคม แทนที่จะได้มีส่วนร่วมกับเพื่อนในห้องเรียน ทำงานกลุ่มร่วมกัน ทานอาหาร และเล่นด้วยกันในช่วงพักกลางวันกลับกลายเป็นว่าเด็กจะต้องอยู่คนเดียว และทำทุกอย่างด้วยตนเอง โดยเฉพาะเด็กที่กำลังย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น จริงๆ แล้วในวัยนี้เป็นวัยที่กำลังต้องการเพื่อน ต้องการความเข้าใจจากคนรุ่นเดียวกัน คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องลองปรับตัวเองให้เป็นเพื่อนกับเด็กๆ ดู เพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาทางด้านนี้ไม่ให้ขาดหายไป
3.ต้องสร้างแรงจูงใจในการเรียน
เป็นเรื่องยากที่เด็ก ๆ ต้องโฟกัสอยู่หน้าจอนาน ๆ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องสร้างแรงจูงใจด้วยการเลือกคลาสเรียนที่มีขนาดเล็ก คุณครูสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง มีการถามโต้ตอบ คลาสมีเกมให้เล่นเพื่อจูงใจให้เด็กๆ รู้สึกสนุกและอยากเรียน
4.ต้องใช้อุปกรณ์ในการเรียนที่มีประสิทธิภาพ
การเข้าถึงอุปกรณ์การเรียนที่มีประสิทธิภาพนั้นสำคัญมากในการที่จะทำให้การเรียนออนไลน์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ผู้ปกครองทุกคนจะสามารถรองรับค่าใช้จ่ายตรงนั้นไหว ทั้งแท็บเล็ต แล็บท็อป หรือโทรศัพท์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ และยังค่าอินเทอร์เน็ตทั้งแบบรายเดือน และเติมเงินอีก ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากเลยทีเดียว
5.คุณพ่อคุณแม่ต้องใช้เวลาในการดูแลมากขึ้นเป็นพิเศษ
หลายคนเข้าใจว่าการเรียนออนไลน์เพียงแค่ปล่อยเด็กไว้กับหน้าจอก็พอแล้ว แต่เปล่าเลย ผู้ปกครองยังคงต้องจับตาดูเด็กๆ อย่างเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เด็กๆ เหลวไหลแอบไปดูยูทิวบ์ (Youtube) หรือเล่นเกมได้ เรียกได้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะละสายตาไปจากเด็กๆ ไม่ได้เลย (สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้เกี่ยวกับ เคล็ดลับดูแลเด็กช่วงเรียนออนไลน์)
เรียนออนไลน์อย่างไรให้มีประสิทธิภาพกับเด็ก ๆ มากที่สุด

1.สร้างพื้นที่สำหรับการนั่งเรียนให้กับเด็ก ๆ : การจัดสรรพื้นที่ที่เหมาะแก่การเรียนรู้เป็นอีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการเรียนออนไลน์ให้กับเด็กๆ ทั้งการจัดหาโต๊ะเก้าอี้ที่เหมาะกับการนั่งเรียน มุมสงบที่จะไม่มีสิ่งใดมารบกวนหรือดึงความสนใจของเด็กๆ ไปจากเรียนได้
2.จัดสรรเนื้อหาและตารางเวลาในการเรียน : เพื่อไม่ให้เด็กๆ หลงลืมเวลา และสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดเตรียมเนื้อหาการเรียนให้เด็กๆ ถือว่าสำคัญมากทีเดียว และการจัดตารางเวลาก็จะทำให้เด็กๆ รู้ว่าในช่วงเวลานั้นๆ ตัวเองควรจะทำอะไร
3.เลือกแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ที่มีคุณภาพ : แพลตฟอร์มที่มีคุณภาพจะช่วยให้เด็กๆ สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ทั้งเรื่องของความเสถียรที่จะทำให้เด็กๆ เรียนได้อย่างลื่นไหลไม่ขาดตอน เรื่องของความชัดเจนที่จะทำให้เด็กๆ รับสารมาได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
4.มองหาสื่อการเรียนการสอนเพื่อเป็นตัวช่วยเสริมในการเรียนรู้ : การหาสื่อการเรียนรู้มาเพิ่มเติมให้กับเด็กๆ ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การเรียนออนไลน์ไม่น่าเบื่อ การนั่งหน้าจอเป็นเวลานานๆ เป็นเรื่องยากสำหรับเด็กหลายคน ดังนั้นการหาสื่อที่จะทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ และผ่อนคลายจากการ Screen time มาได้บ้างจึงถือเป็นอีกตัวช่วยที่ดีมากเลยทีเดียว
5.จัดเตรียมอุปกรณ์การเรียนให้พร้อมสำหรับการเรียน : การมีอุปกรณ์การเรียนที่พร้อมทำให้เด็กๆ สามารถเรียนรู้ได้อย่างราบรื่น ไม่ต้องเป็นกังวลขณะเรียน เมื่อต้องการสิ่งใดก็สามารถหยิบใช้ได้เลย เพราะนี่ไม่เหมือนในห้องเรียนที่เด็กๆ สามารถยืมจากเพื่อนข้างๆ ได้ หากเด็กๆ ต้องลุกไปหาของก็อาจทำให้เขาพลาดโอกาสในการเรียนไปได้เลย
6.คอมมูนิตี้ หรือกิจกรรมเพิ่มเติมให้เด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น : เมื่อนั่งเรียนอยู่หน้าจอทั้งวัน การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ ในช่วงเวลาแบบนี้การออกไปเล่นกับเพื่อนเพื่อเข้าสังคมอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการนี้กับเด็กๆ เช่นหาเกมสนุกๆ มาเล่น เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้กัน และกันฟัง เพื่อไม่ให้เด็กๆ ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวจนเกินไป
การเรียนออนไลน์แม้จะเป็นรูปแบบการเรียนแบบใหม่ที่ท้าทาย แต่ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่จัดสรรการเรียนการสอนและเลือกแพลตฟอร์มที่มีคุณภาพละเหมาะสมให้กับเด็ก ๆ ได้อย่างเหมาะสมแล้วล่ะก็สามารถเบาใจได้เลยว่าเด็ก ๆ จะได้รับความรู้ที่มีประสิทธิภาพและตรงต่อความสนใจของเด็ก ๆ อย่างแน่นอน
ที่ LingoAce เราใช้หลักสูตรภาษาจีนที่ปรับให้เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน รวมไปถึง ใช้การเรียนการสอนผ่านเกมส์ สื่อสร้างสรรค์ และการโต้ตอบแบบ Interactive ทำให้เด็กได้ทั้งความรู้และความสนุกไปในตัว สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่อยากจะพาคุณลูกมาเปิดประสบการณ์เรียนออนไลน์แบบใหม่ที่สนุกและได้ประสิทธิภาพ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Line: @lingoace หรือ ลงทะเบียนรับสิทธิ์ทดลองเรียนครั้งแรกฟรี
ลงทะเบียนเพื่อรับคลาสทดลองเรียนฟรี !
ทดลองเรียนฟรี ไม่เสียค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนหรือค่ามัดจำใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งสามารถเลือกเวลาเรียนได้ตามความสะดวกของคุณ
คลาสทดลองเรียนประกอบด้วย:
คลาสสอนสดออนไลน์ พร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับหลักสูตรและคุณครูที่เหมาะสมกับความต้องการและบุคลิกภาพในการเรียนของเด็กมากที่สุด โดยจะมีการประเมินอย่างละเอียด และแชร์รายงานข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจุดอ่อนและจุดแข็งของเด็กให้ผู้ปกครองได้ทราบ
ทดลองเรียน เพื่อพิสูจน์ความแตกต่างด้วยตัวคุณเอง
You may also like:

10 ไอเดีย กิจกรรมวันคริสต์ มาสสุดสนุก ฝึกภาษาอังกฤษสำหรับลูกน้อย

สายศิลป์ภาษาจีนสุดปัง ! เข้าคณะดังได้แน่

5 เทคนิคการปลูกฝั่ง Growth mindset ให้กับลูกน้อย เมื่อต้องเรียนออนไลน์
เรียนภาษาจีนจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปถ้ามี LingoAce

9 ไอเดียกิจกรรมเด็กฝึกภาษาจีนสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลา

Learning by doing รูปแบบการเรียนรู้ที่ให้เด็ก ๆ มีความสุขจากการลงมือทำ

LingoAce Connect แอปเรียนภาษาจีนสำหรับเด็กที่โดนใจผู้ปกครอง

5 ข้อดี ของการเรียนภาษาจีนกับเจ้าของภาษา

“Foundation Program” คอร์สภาษาจีนออนไลน์ หลักสูตรใหม่ 25 นาที เรียนสนุกกว่า และเฟรนด์ลี่กับเด็กมากขึ้น!
